ซื้อขาย Single Stock Futures ของ PSL ต้องดูอะไรบ้าง ?

---

เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2563

---

ราคาหุ้น PSL ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ขานรับ Sentiment บวกจากดัชนี BDI หรือดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำ New High ในรอบเกือบ 2 เดือน จากระดับใกล้ๆ 1,270 จุด มาสู่ระดับ 1,660 จุด จึงเป็นเหตุให้ราคาหุ้นกลุ่มเดินเรืออย่าง PSL วิ่งทะยานขึ้นมาจาก 4.20 บาท สู่ระดับ 5.30 บาทหรือขึ้นมาราว 26% ภายใน 1 สัปดาห์

เราพบว่า ตั้งแต่ปี 2558 - 2562 BDI มักจะปรับตัวขึ้นใน Q3 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเรือขนส่งมากขึ้น ณ ช่วงเวลาดังกล่าว (สังเกตจากภาพประกอบด้านล่าง) อย่างไรก็ตาม หากวัดจากสถิติผลการดำเนินงานย้อนหลังของ PSL พบว่าในช่วง Q3 ที่ค่าระวางเรือ หรือ BDI ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวเลขกำไรสุทธิ (Net Profit) ของ PSL อย่างหลายคนที่คาดไว้ มีเพียง EBITDA ที่มีแนวโน้มเป็นบวก

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาหุ้น และ Single Stock Futures ของ PSL

ก่อนอื่นต้องบอกว่า PSL มีรายได้หลักจากการเดินเรือ ภาพรวมธุรกิจของ PSL จึงมีความเกี่ยวข้องกับค่าระวางเรือ (BDI) ซึ่งเป็นตัวกำหนดราคาค่าขนส่งทางเรือ หาก BDI มีทิศทางขาขึ้น รายได้ของ PSL ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และถ้า BDI มีทิศทางเป็นขาลง รายได้ของ PSL ก็มีแนวโน้มลดลงตามไปด้วย

นอกจาก BDI แล้ว สิ่งที่ต้องโฟกัสและมีผลต่อรายได้ของ PSL อีกอย่างนึงก็คือ อัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจาก PSL รับรายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น ในเวลาที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ รายได้ที่เป็นสกุลเงินบาทก็มีแนวโน้มลดลง ในทางกลับกัน หากเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ รายได้เมื่อคำนวณเป็นเงินบาทของก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ด้านปัจจัยที่มีผลต่อกำไรสุทธิของ PSL นอกเหนือจาก BDI และค่าเงินบาท ก็คือ ค่าเสื่อมราคา โดยเฉพาะค่าเสื่อมราคาของเรือ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตัดกำไรทางบัญชีของ PSL จึงทำให้เห็นว่า PSL มีการขาดทุนทางบัญชี แม้ว่าค่า BDI มีแนวโน้มเป็นบวกในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วน EBITDA ที่ไม่ได้นำค่าเสื่อมราคาเข้ามาหักส่วนของกำไรทางบัญชี ในมุมมองของเรา ขอตอบว่า EBITDA มีผลต่อ Sentiment ของราคาหุ้น PSL ไม่เท่ากับกำไรสุทธิ ดังนั้น ไม่ว่าท่านต้องการจะลงทุนหรือซื้อขายหุ้น PSL และ PSL Futures ควรให้น้ำหนักการตัดสินใจไปที่กำไรสุทธิ

แต่เมื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงานที่มีการขาดทุนสุทธิ และยังไม่มีกำไรสม่ำเสมอ ทำให้เรามีมุมมองต่อหุ้น PSL ว่าเป็นเพียงหุ้นที่มีไว้เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ส่วนปัจจัยที่ใช้ในการเก็งกำไรระยะสั้น เรามุ่งน้ำหนักไปที่ค่าระวางเรือ (BDI) เนื่องจากราคาหุ้น PSL มีความเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับ BDI ดังนั้น หาก BDI เป็นขาขึ้น ควรเก็งกำไรหุ้น PSL ในฝั่งซื้อ ในทางกลับกัน หาก BDI เป็นขาลง ควรเก็งกำไรหุ้น PSL ในฝั่งขาย

หากวิเคราะห์จากสถานการณ์ปัจจุบัน แนวโน้ม BDI เป็นขาขึ้น ส่งผลให้ PSL มีแนวโน้มขาขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น หากต้องการเก็งกำไร Single Stock Futures ของ PSL ในช่วงนี้ แนะนำเป็นฝั่ง Long จะได้เปรียบกว่า โดยเรามีคำแนะนำด้านกลยุทธ์ ดังนี้

 

PSL มีแนวรับใกล้สุดที่ 5.25 บาท หากมีการย่อไม่ต่ำกว่า 5.25 บาท โดยพิจารณาประกอบกับ BDI ที่ยังเป็นขาขึ้น แนะนำ เปิดสถานะ Long ใกล้ๆ 5.25 บาท มีจุด Stop Loss ที่ 5 บาท และมีเป้าหมายทำกำไร 5.50-5.70 บาท หรือจนกว่า BDI จะกลับมาเป็นขาลง

หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 1 ต.ค. 63