การปรับลงดังกล่าวของดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก
เกิดขึ้นหลังจากนักลงทุนกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้าที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น
เนื่องจากทรัมป์ประกาศจะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็น 25% ซึ่งคิดเป็นวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ และเหตุผลที่ทรัมป์จะขึ้นภาษีเพราะไม่พอใจว่า การเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศนั้นคืบหน้า “ช้าเกินไป” และจีนได้แสดงท่าทีออกมาทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางตรง รัฐบาลจีนกำลังพิจารณายกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐที่เดิมมีกำหนดในสัปดาห์นี้
ทางอ้อม คือ การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ให้กับธนาคารขนาดกลางและขนาดย่อมบางราย โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. เป็นต้นไป โดย RRR ปรับเหลือ 8% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำ เพื่อปล่อยเงินทุนระยะยาวราว 2.8 แสนล้านหยวน (ประมาณ 4.16 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่านั้นเอง และยังถือเป็นการขัดกับเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน เพราะเงื่อนไขในการเจรจา 3 ข้อเพื่อแลกกับการไม่ขึ้นภาษีสินค้าจีน
- จีนต้องรักษาเสถียรภาพของค่าเงินหยวน
- จีนจะต้องยุติการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและการโจมตีทางไซเบอร์
- การปรับลดหรือยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์, สินค้าโภคภัณฑ์ อุปกรณ์อุตสาหกรรม และการเกษตรที่มาจากสหรัฐฯ
ซึ่งจีนในตอนนี้ไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่ทำไว้กับสหรัฐฯ
ทำให้ตลาดหุ้นที่เปิดในวันนี้ปรับลง

ทั้งนี้มีโอกาสดัชนี SET ของไทยอาจปรับลงในวันอังคารนี้ แนวรับ 1,650 จุด