บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

หุ้นน่าลงทุนหลังสงกรานต์ 66

หุ้นน่าลงทุนหลังสงกรานต์ 66

เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2566


เวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหกกับเทศกาลสงกรานต์ วันหยุดยาวของเมืองไทย เชื่อว่าใครหลายคนยังอยากที่จะหยุดพักผ่อนกันต่อ แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนยังต้องลุยกันต่อ ดังนั้นคำถามในบทความนี้คือ
หลังสงกรานต์ลงทุนหุ้นอะไรดี?

หลังสงกรานต์ โควิด-19 เสี่ยงกลับมาระบาดอีกครั้ง
อ้างอิงจาก อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่าผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลช่วงวันที่ 9-15 เมษายน 66 ทั้งหมด 435 คน เฉลี่ยวันละ 62 คน เป็น 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อน และคาดการณ์ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นเพราะเป็นปีแรกที่เปิดให้เล่นสงกรานต์ได้เต็มที่ รวมทั้งประเทศไทยได้ผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทำให้ไม่มีการตรวจโควิดก่อนเข้าร่วมกิจกรรมและนักท่องเที่ยวใส่หน้ากากน้อยลง นอกจากนี้มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธ์ XBB.1.16 ในประเทศไทยจำนวน 6 คน แม้ความรุนแรงของสายพันธ์ XBB.1.16 จะไม่รุนแรง แต่มีความสามารถในการติดเชื้อมากกว่าสายพันธ์อื่นๆ สร้างความเสี่ยงให้มีการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังสงกรานต์มากขึ้น

เมื่อโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดในไทยอีกครั้งกลุ่มหุ้นที่จะได้ประโยชน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้นคงไม่พ้น
1.กลุ่มโรงพยาบาล
หากมีการแพร่ระบาดโควิด-19 จะหนุนให้ผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการรักษาสูงขึ้น รวมทั้งมีโอกาสที่ประชาชนจะเข้ารับวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น สร้างรายได้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น
อีกปัจจัยบวกกับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล
ประกันสังคมปรับเพิ่มอัตราเหมาจ่ายรายปี จาก 1,640 บาทต่อคน เพิ่มขึ้น 10.2% เป็น 1,808 บาทต่อคน มากกว่าคาดการณ์ที่ 8-10% ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 66 ซึ่งหุ้น Single Stock Future(SSF) ที่มีรายได้ในผู้ป่วยประกันสังคมสูงมี BCH และ CHG แม้ BCH จะมีจำนวนผู้ประกันตนในประกันสังคม มากถึง 1 ล้านคน มากกว่า CHG ที่มีประมาณ 5 แสนคน แต่ เมื่อเทียบความถูกแพงโดยใช้อัตราส่วน PE  CHG มีเพียง 14.65 เท่าต่ำกว่า BCH ที่ 17.48 เท่า ทำให้ CHG มีความน่าสนใจมากกว่า BCH

แนวโน้ม CHG เริ่มเห็นการกลับเป็นขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน CHGM23 ในฝั่งซื้อ
เมื่อราคาทะลุ 3.78 บาท
เป้าหมายที่ 3.96-4.02 บาท
จุดตัดใจสิ้นวัน 3.70 บาท
หลักประกันเริ่มต้น 1,365 บาท หรือ
Block Trade เริ่มต้น 100 สัญญา
วางหลักประกัน 136,500 บาท

 

2.หุ้นถุงมือยาง
หุ้นถุงมือยางได้ประโยชน์จากผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการใช้ถุงมือยางในการรักษารวมถึงใช้ในการตรวจเชื้อโควิด-19 หนุนยอดคำสั่งซื้อถุงมือยางมากขึ้น รวมทั้งราคาถุงมือยางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังราคายางกลับมาสูงขึ้น เพราะสหรัฐฯ เตรียมลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า กระทบแนวโน้มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น หนุนความต้องการยางพาราเพิ่มขึ้น และปริมาณผลผลิตยางมีแนวโน้มลดลงจากอุณหภูมิเมืองไทยที่เพิ่มสูงขึ้น กดปริมาณการผลิตยางพาราลดลง ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตยางพาราอันดับต้นๆของโลก ดันราคายางพาราปรับสูงขึ้น ส่งหุ้นกลุ่มถุงมือยางปรับขึ้นราคาถุงมือยาง สร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับหุ้นกลุ่มถุงมือยาง ทำให้กลุ่มถุงมือยางเป็นอีกกลุ่มที่น่าเก็งกำไร ซึ่งหุ้นถุงมือยางที่อยู่ใน SSF คือ STGT

แนวโน้ม STGT เริ่มเห็นการกลับเป็นขาขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน STGTM23 ในฝั่งซื้อ
เมื่อราคาทะลุ 10.70 บาท
เป้าหมาย 11.30-11.70 บาท
จุดตัดใจสิ้นวัน 10.10 บาท
หลักประกันเริ่มต้น 1,190 บาท หรือ
Black Trade เริ่มต้น 100 สัญญา
วางหลักประกัน 119,000 บาท

 

 

 

เปิดบัญชี TFEX
รับสิทธิพิเศษทันที !!
Array
(
)
		
Array
(
    [sesCAFXXSLAT] => 1714583378
    [CAFXSI18NX] => th
    [_csrf] => 7ef79ebea38b5bbb89d90f394a325262
    [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/analyze-songkran-stock-2022.html
)
		
Array
(
    [content] => analyze-songkran-stock-2022
)
		
Array
(
)