บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

CAFUPDATE ประจำวันที่ 17 มกราคม 2566

CAFUPDATE ประจำวันที่ 17 มกราคม 2566

เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566


TISCO โตจากธุรกิจธนาคาร แต่ถูกกดด้วยธุรกิจตลาดทุน

TISCO มีรายได้จาก 2 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจตลาดทุน โดยในกำไรปี 2565 ของ TISCO อยู่ที่ 7,221.74 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับกำไรปี 2564 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจธนาคารพาณิชย์และการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิด(ECL) ที่ระดับ 0.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย โดยเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 7.9% จากปี 2564 จากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อ SMEs สินเชื่อจำนสำทะเบียน และสินเชื่อเช่าซื้อรถมือ 2 กระทบรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2.2% จากปี 2564 รวมทั้งค่าธรรมเนียมในธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 24% และค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 13.4% จากปี 2564 เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แต่กำไรของ TISCO ถูกกดดันจากธุรกิจตลาดทุน จากรายได้ค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 19.2% เพราะปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลดลง รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนลดลง 15.6% จากยอดขายของกองทุนใหม่ที่ลดลง
ทั้งนี้ในปี 2566 ผู้บริหารของ TISCO เผยยังคงเน้นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ, สินเชื่อเช่าซื้อรถมือ 2, สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก โดยตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5-10% รวมทั้งในปี 2566 จะขยายสาขาของธุรกิจสมหวัง เงินสั่งได้ มากขึ้นเป็น 200 สาขา จากเดิมขยายเฉลี่ยอยู่ที่ 50-100 สาขาต่อปี เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น ทั้งนี้จะควบคุมสัดส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3% และในส่วนธุรกิจตลาดทุน คาดว่าปี 2566 จะฟื้นกลับมาได้หลังในปี 2565 ถูกกระทบจากความผันผวนและความซบเซาของตลาดหุ้น

แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้น จากภาคการท่องเที่ยว หลังจีนเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 แต่เป็นปัจจัยที่นักลงทุนรับรู้ไปมากแล้ว ทั้งนี้นักลงทุนกำลังจับตาดูตัวเลขต่างๆที่จะออกมา ว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักลงทุนในก่อนหน้านี้หรือไม่ ทำให้มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตไม่เท่ากับที่คาดไว้ ส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่ออาจขยายตัวน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ รวมทั้งในส่วนตลาดทุนมีความเสี่ยงจากการเก็บภาษีขายหุ้นที่จะเริ่มเก็บตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ในอัตรา 0.055% ของมูลค่าหุ้นที่ขาย และตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไปจะเก็บในอัตรา 0.11% ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้น กระทบการฟื้นตัวในธุรกิจตลาดทุนของ TISCO ทั้งนี้นักลงทุนควรระวังแรงขายทำกำไรสำหรับผู้ที่มีสถานะในฝั่งซื้อ อาจขายล็อกกำไรและลดความเสี่ยงออกมาก่อน

 

 

เปิดบัญชี TFEX
รับสิทธิพิเศษทันที !!
Array
(
)
		
Array
(
    [sesCAFXXSLAT] => 1714612201
    [CAFXSI18NX] => th
    [_csrf] => fb6644e1498e2ec5c1a7a9e51e4c86da
    [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/caf-update-17-01-66.html
)
		
Array
(
    [content] => caf-update-17-01-66
)
		
Array
(
)