Posted on Saturday, May 25, 2019
เราเชื่อว่านักลงทุนยังคงจำกันได้ในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเป็น 25% จากเดิม 10% ในสินค้า 5,745 รายการ มีมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทำให้เราเกิดคำถามในหัวว่า ตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน นับเป็นเวลา 2 สัปดาห์มาแล้วนักลงทุนตอบรับอย่างไร ด้วยการวิเคราะห์สินทรัพย์ที่นับเป็น Global Trend และเราได้นำ SET , SET50 เข้าไปรวมด้วย เพื่อที่จะทราบว่าตลาดหุ้นไทยตอบรับอย่างไรกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
จากกราฟ Global Trend เราได้เห็นจะมี 9 สินทรัพย์ที่เม็ดเงินไหลเข้า คือ
นอกนั้นปรับตัวลงทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าการเกิดสงครามการค้าทำให้รู้ว่านักลงทุนย้ายเงินส่วนใหญ่มาพักในสินทรัพย์ทั้ง 9 อย่าง ส่วนดัชนี SET -2.27% ,SET50 -2.38%
หมายความว่า เม็ดเงินไหลออกทำให้หุ้นไทยปรับลงหากเราลงลึกยิ่งขึ้นไปสู่มูลค่าการซื้อขายSETและปริมาณการซื้อขาย SET50 Futures ของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่วันที่ 10 – 24 พ.ค. เราจะเห็นได้ชัดมากขึ้นว่า เม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติไหลออกไปจริงหรือไม่ ไปดูพร้อมกันเลย
โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิทั้ง 2 ตลาดอย่างที่เราคาดไว้ ถือเป็นการยืนยันว่าสงครามการค้าสร้างความกังวลแก่นักลงทุนทำให้เม็ดเงินไหลออก และหากมีแนวโน้มว่าจะเกิดสงครามการค้าอีกรอบ นักลงทุนในตลาดหุ้นต้องกังวลหนัก ต่างจากนักลงทุนในตลาด TFEX ไม่ต้องกังวลหากดัชนี SET50 Futures ปรับลง เพราะนักลงทุนสามารถอยู่ฝั่ง Short ได้นั่นเอง
Array
(
    [Secure-PHPSESSID] => dbhjsldo69qktvaclt60ljt36c
    [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV
)
		
		
Array
(
    [sesCAFXXSLAT] => 1762264988
    [CAFXSI18NX] => en
    [_csrf] => 2de6bc1cc848498560ff04004471b92e
    [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=en&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2FHow-do-investors-adjust.html
)
		
		
Array
(
    [content] => How-do-investors-adjust
)
		
		Array ( )