เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566
นักลงทุนมีโอกาสที่เห็นเงินไหลเข้าดอลลาร์สหรัฐฯจากดอกเบี้ยสูง และปัญหาทางเศรษฐกิจที่น้อยกว่าประเทศอื่นกดราคาทองคำ ในการลงทุนปกติเงินย้ายไปหาอัตราผลตอบแทนที่สูงและมีความเสี่ยงต่ำ หากเปรียบระหว่างอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจในปี 2022 ซึ่ง 10 อันดับแรกมีดังนี้เรียงตามจากมากที่หาน้อยได้แก่ สหรัฐฯ , ญี่ปุ่น,เยอรมนี ,UK , อินเดีย ,ฝรั่งเศส ,อิตาลี , แคนาดา,และเกาหลีใต้ กระทบต่อเงินลงทุนที่จะเข้าสหรัฐฯเพิ่ม
หากวิเคราะห์ส่วนที่เป็นตะกร้าเงินดอลลาร์ซึ่งมีสกุลเงิน 6 สกุล ประกอบด้วย เงินยูโร ,เงินเยนญี่ปุ่น ,เงินปอนด์อังกฤษ ,เงินดอลลาร์แคนาดา ,เงินโครนาสวีเดน ,และเงินฟรังก์สวิส โดยดอกเบี้ยของสหรัฐฯสูงที่สุดแตะ 5.50% ดันดอลลาร์แข็ง
กลับมาที่ประเด็นแนวโน้มว่า FED จะคงนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อหรือไม่ วิเคราะห์ว่ามีโอกาสเห็น FED คงนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อ เหตุผล 3 อย่าง คือ เงินเฟ้อสูง , อัตราการว่างงานต่ำ ,และ GDP ขยายตัว
1.แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯกำลังเพิ่มขึ้นจาก 3 ปัจจัยได้แก่ พลังงาน,ธัญพืช,และชิป
1.1.ราคาพลังงาน ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอุปทานที่ขาดแคลนจาก 3 อย่าง ซาอุฯลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ,รัสเซียลดการส่งออก 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ,และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียตัดสินใจไม่พิจารณายกเว้นการห้ามส่งออกก๊าซธรรมชาติจากแหล่งก๊าซบนบกนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนใหม่ๆและก๊าซธรรมชาติในยุโรปกำลังขาดตลาด
1.2.ราคาธัญพืชปรับขึ้น เนื่องจากประเด็นรัสเซีย โดยการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ทำให้ชาติตะวันตกคว่ำบาตรสินค้าอย่างพลังงาน,ธัญพืชและปุ๋ยจากรัสเซีย และรัสเซียได้ยกเลิกข้อตกลงการส่งธัญพืชจากทะเลดำไปสู่ประเทศต่างๆ
1.3. ราคาชิปแพงรับ “เทควอร์”จีน-สหรัฐ หลังจากจีนประกาศว่าจะควบคุมการส่งออกผลิตภัณฑ์กัลเลียมและเจอร์มาเนียมบางชนิดตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 66 โดยกัลเลียมนำไปทำกัลเลียมอาร์เซไนด์ใช้ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มีไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่สามารถผลิตกัลเลียมบริสุทธิ์ตามที่ต้องการได้ หนึ่งแห่งอยู่ในยุโรปที่เหลืออยู่ในญี่ปุ่นและจีน ขณะที่เจอร์มาเนียมเป็นองค์ประกอบหลักในใยแก้วนำแสง, ชิปคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง, พลาสติก และรังสีอินฟราเรด
2.ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) โดยธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 5.8% ใน Q3/66
3.อัตราการว่างงานสหรัฐฯแตะ 3.5% ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน วิเคราะห์ว่าสหรัฐฯมีอัตราการว่างงานสหรัฐฯที่ต่ำ เนื่องจาก GDP สหรัฐฯขยายตัว Q1/66 +2.0% , Q2/66 +2.4% และ Q3/66 คาดจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัว 5.8%
สรุป FED มีโอกาสคงนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อจาก 1.เงินเฟ้อสูง ,2.อัตราการว่างงานต่ำ ,และ3.GDP ขยายตัว ส่งดอลลาร์แข็งและกดราคาทองคำ
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหากลุ้นให้ดอลลาร์อ่อน ที่เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ คือ หนี้ในสหรัฐฯ โดยระดับหนี้ภาคเอกชนในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นไวมาก โดยเพิ่มขึ้นจากหนี้บัตรเครดิตที่เพิ่มทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2566
,สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันแตะ 2.25 แสนล้านดอลลาร์ , หนี้ของบริษัทเอกชนพุ่งไปแตะ 8.2 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 6.2% จากหนี้ของบริษัทเอกชนพุ่งทำให้ครึ่งปีแรกของ 66 เกิดการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเอกชนในสหรัฐฯถึง 55 บริษัท เมื่อเทียบกับปี 65 เกิดการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเพียง 36 บริษัทเท่านั้น และพบว่าครึ่งปีแรกของ 66 เกิดการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเอกชนเพิ่มจากปี 65 ถึง 53% ทั้งนี้เริ่มเห็นสัญญาณของอัตราการค้างชำระหนี้ของสินเชื่อส่วนบุคคล Q1/66 เพิ่มขึ้น 2.23%
สรุปปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำจะขึ้น ต้องลุ้นให้สหรัฐฯเกิดหนี้เสียจากหนี้อย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้ของบริษัทเอกชน กล่าวได้ว่าหากเกิดหนี้เสียจะกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคารอาจเกิดความเสี่ยงที่จะเกิด Bank Run ประกอบกับดอกเบี้ยที่สูงจะเพิ่มความเสี่ยงภาคธนาคารของสหรัฐฯ หากภาคธนาคารมีปัญหา FED มีโอกาสเปลี่ยนนโยบายการเงินเป็นผ่อนคลาย กดดอลลาร์อ่อนและส่งราคาทองคำบวก
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1731117360 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 56487aad407f894d938d59a5cac39ce8 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/analyze-gold-2-2023.html )
Array ( [content] => analyze-gold-2-2023 )
Array ( )