บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด การลงทุนทองคำก็เช่นกัน

ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด การลงทุนทองคำก็เช่นกัน

เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562


บทเรียนทองคำที่นักลงทุนจะได้เรียนรู้ในวันนี้ คือ ราคาทองคำขึ้นลงจากปัจจัยอะไรกันแน่ โดยเราเริ่มวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นปี 2561 ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ผิดปกติในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมาคือ 1% และการเคลื่อนไหวเกิน 1% เกิดขึ้นกี่ครั้ง

โดยการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ผิดปกติตั้งแต่ต้นปี 2661

มีทั้งหมด 43 ครั้ง แบ่งเป็น 4 ปัจจัยคือ

  1. ารเมืองระหว่างประเทศ (19 ครั้ง 44%) อย่างเช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ,ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน , Brexit แบบไร้เงื่อนไข
  2. ตัวเลขเศรษฐกิจและการใช้นโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ (19 ครั้ง 44%)  ได้แก่ การประกาศตัวเลข Non-Farm ,ยอดค้าปลีก, GDP ที่เหนือความคาดหมาย และการส่งสัญญาณเกี่ยวกับดอกเบี้ยนโยบาย
  3. อุปสงค์ – อุปทานของทองคำน (3 ครั้ง 7%) เป็นการซื้อขายของกองทุน SPDR สามารถติดตามได้ที่ http://www.spdrgoldshares.com/usa/historical-data/
  4. วิกฤตเศรษฐกิจ (2 ครั้ง 5%)  อย่างเช่นสหรัฐฯสามารถผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว หยุดการปิดหน่วยงานรัฐ  และความกังวลเศรษฐกิจยุโรปอาจเกิดวิกฤต หลังอิตาลีกำหนดการขาดดุลงบประมาณสูงถึง 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากปัจจัยที่เราชี้ให้เห็นว่าราคาทองคำเปลี่ยนแปลงจาก 4 ปัจจัยทำให้นักลงทุนต้องจับตากับปัจจัยเหล่านี้มากขึ้นได้แก่

  1. การเมืองระหว่างประเทศ
    ประเด็นสำคัญคือ
     สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน มีแนวโน้มที่จะได้เห็นสงครามการค้ารุนแรงมากขึ้น โดยที่มาของการเกิดขึ้นสหรัฐฯพยายามแก้ไขการขาดดุลการค้ามาทุกยุคทุกสมัยทำการขอให้จีนช่วย แต่ทรัมป์เข้ามาใช้ไม้แข็งอย่างการขึ้นภาษี 2 แสนล้านดอลลาร์ และช่วงสงครามการค้าใครเสียประโยชน์ สรุปเสียทั้งคู่ การเกิดสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจเบอร์ 1 และ 2 ชะลอตัว เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
  2. สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-EU
    เนื่องจากในวัน 17 พ.ค. สหรัฐฯชะลอการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอย่างรถยนต์ และอะไหล่รถรถยนต์ ออกไป 180 วันและกำหนดการเก็บภาษีครั้งใหม่คือ 10 ต.ค. 62 เราอาจได้เห็นการขึ้นภาษีระหว่างสหรัฐฯ-EU ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ หากเกิดสงครามการค้า
  3. ทิศทางดอกเบี้ย FED พร้อมเงื่อนไข
    นักลงทุนอาจได้เห็นการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) โดยมีเงื่อนไขคือ สงครามการค้ารุนแรงมากขึ้น , GDP ต่ำกว่า 2% ,อัตราการว่างงานสูงแตะ 4% และสุดท้ายอัตราเงินเฟ้อต่ำ
    ประชุม FOMC เหลืออีก 4 ครั้ง  31 ก.ค. / 18 ก.ย. / 30 ต.ค. / 11 ธ.ค.
    การลดดอกเบี้ยทำให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำและตลาดหุ้น ซึ่งนักลงทุนดูการคาดการณ์ใช้นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯได้ที่ https://www.cmegroup.com/trading/interest-rates/countdown-to-fomc.html
  4. ประเด็นอิหร่าน
    อังกฤษยึดเรือขนส่งน้ำมันอิหร่าน และอิหร่านเตรียมแผนตอบโต้อังกฤษโดยการจะยึดเรืออังกฤษ พร้อมกับการเพิ่มสมรรถนะความบริสุทธิ์ของแร่ยูเรเนียม หากเกิดสงครามการค้าจะเป็นบวกต่อราคาทองคำ และเป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้น
  5. Government Shutdown
    ทรัมป์ต้องขยายเพดานหนี้สหรัฐฯให้ได้ก่อนวันที่ 30 ก.ย. ไม่งั้นเกิด Government Shutdown หากไม่เกิดก็จะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
  6. Brexit
    เส้นตาย 31 ต.ด. หากออกแบบไม่มีเงื่อนไขจะเป็นผลเสียทั้ง UK และ EU เพราะเศรษฐกิจระหว่างอังกฤษกับ EU มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก
เปิดบัญชี TFEX
รับสิทธิพิเศษทันที !!
Array
(
)
		
Array
(
    [sesCAFXXSLAT] => 1713601119
    [CAFXSI18NX] => th
    [_csrf] => c36d67121fca913d7ff15294ecff08cd
    [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/knowledgegoldinvestmentisthesame.html
)
		
Array
(
    [content] => knowledgegoldinvestmentisthesame
)
		
Array
(
)