เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567
เรียกได้ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์หน้านักลงทุนจะเจอตั้งแต่ การลงทุนในจีน ไปจนถึงการประชุม FOMC ,BOJ ,และ BOE อาจทำให้ดัชนี SET50 มีความเสี่ยงผันผวนสูง โดยคาดการณ์ตัวเลขดังต่อไปนี้
1.ตัวเลขเศรษฐกิจจีนอย่าง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ,และยอดค้าปลีก คาดการณ์ขยายตัวลดลง โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิตในจีนหดตัว และยอดค้าปลีกอาจลดลงบ่งชี้ กำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง เนื่องจากภาระหนี้สินที่สูงทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย และผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ (-SET50 เชิง Sentiment ,-กลุ่มส่งออก)
2.การประชุม BOJ คาดการณ์ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจาก ญี่ปุ่นกำลังจะหลุดจากเงินฝืด เพราะบริษัทใหญ่ส่งสัญญาณขึ้นค่าจ้าง ทำให้เกิดการแก้ปัญหาเงินฝืด และเกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ เพราะต้นทุนการกู้ยืมเงินที่สูงขึ้น จะทำให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนชะลอการลงทุนและการใช้จ่าย (-SET50 เชิง Sentiment ,-กลุ่มส่งออก)
3.การประชุม FOMC คาดการณ์คงดอกเบี้ยพร้อมไม่ส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยเท่าใด แต่จะให้เงื่อนไขการลดดอกเบี้ยแทน คือ อัตราเงินเฟ้อต้องต่ำกว่า 2% และเศรษฐกิจสหรัฐฯต้องไม่ถดถอย ทำให้นักลงทุนต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด (-SET50 เชิง Sentiment)
4.ตัวเลข PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯและยูโรโซนคาดการณ์ขยายตัวลดลง อาจกระทบภาคธุรกิจอาจชะลอการจ้างงานและการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศโตช้า
สรุปทั้ง 4 อย่างที่กล่าวมานับเป็นปัจจัยลบต่อ SET ขณะที่ภาพทางเทคนิค หาก S50H24 ไม่ผ่าน 855 จุด มีความเสี่ยงเป็นรูปแบบ Sideway Down ต่อ
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1733801043 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 3e971b6bb30677264a820a76852316b0 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/analyze-set-50-stock-2024.html )
Array ( [content] => analyze-set-50-stock-2024 )
Array ( )